บทความ

บอลไทยในสายเลือด

แม้ว่าคอบอลในบ้านเราส่วนใหญ่จะยังคงให้ความสนใจเกมฟุตบอลต่างประเทศเป็นหลัก แต่แฟนบอลชาวไทยอีกหลายคนเริ่มหันกลับมาให้ความสนใจเกมลูกหนังในบ้านเกิดของตัวเองกันเป็นแถว เนื่องจากกระแส ไทยลีก โฉมใหม่ ที่มีการลงมือปรับปรุงหวังพัฒนาให้เป็นเกมลูกหนังระดับอาชีพแบบจริงจังในช่วงฤดูกาลนี้ กำลังมาแรงเหลือเกิน หลังลงสนามฟาดแข้งกันไปแล้วถึง 6 นัด ซึ่งผลปรากฏว่า ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนบอลเป็นอย่างดี

ดูได้จากบรรดาแฟนบอลที่ยอมลงทุนเดินทางไปเชียร์ทีมโปรดของตัวเองถึงขอบสนามเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เมื่อก่อนจะเป็นไปในลักษณะ แข่งกันเอง-ดูกันเอง ปล่อยไปตามยถากรรม แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า เกมการแข่งขันในหลายๆ สนามสามารถเก็บค่าเข้าชมเกมการแข่งขันจากแฟนบอลได้เป็นจำนวนเงินถึงหลักแสนเลยทีเดียว ซึ่งเงินจำนวนนี้น่าจะเป็นรายได้แบบกอบเป็นกำที่สามารถนำไปใช้จ่ายในการพัฒนาทีมลูกหนังของตัวเองได้อีกด้วย

 ส่วนสาเหตุที่ทำให้ ไทยลีก โฉมใหม่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี คงเป็นเพราะการที่สโมสรต่างๆ ที่เคยจำกัดอยู่แต่ในเมืองหลวง ได้นำชื่อทีมลูกหนังของตัวเองไปผูกติดกับจังหวัดต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้แฟนบอลชาวภูธรได้สัมผัสเกมลูกหนังลีกสูงสุดของประเทศแบบใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น จึงทำให้เกมลูกหนังลีกสูงสุดของประเทศที่เคยจำกัดอยู่ในวงแคบๆ จนได้รับเย้ยหยันว่า กรุงเทพลีก สามารถกระจายออกไปยังต่างจังหวัดได้สำเร็จภายในเวลาอันรวดเร็ว

 แถมยังได้ฐานเสียงแรงเชียร์จากแฟนบอลต่างจังหวัด ที่เริ่มรู้สึกผูกพันกับทีมลูกหนังในท้องถิ่นของตัวเองเป็นจำนวนมากอีกด้วย ดูได้จาก "สิงห์อมควัน" สโมสรพนักงานยาสูบ ที่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร พร้อมกับแปรสภาพกลายเป็นทีมลูกหนังของชาวมหาชัยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นการเดินตามรอยเท้าของ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมลูกหนังจากภูธร ที่มีแฟนบอลติดตามเชียร์กันแบบเหนียวแน่นเหลือเกิน 

 หลังจากการแข่งขัน ไทยลีก ประจำฤดูกาลนี้ผ่านพ้นไปแล้ว 6 เกม ผลปรากฏว่า "กระต่ายบีจี" บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมลูกหนังจากปทุมธานี ที่ได้สิทธิ์ลงเล่นในลีกสูงสุดของประเทศเป็นครั้งแรกด้วยการใช้ทางลัดคว้าสิทธิ์นี้ด้วยการเทคโอเวอร์มาจาก "วายุภักษ์" ธนาคารกรุงไทย ที่ต้องจำใจประกาศยุบทีม สามารถยึดตำแหน่งจ่าฝูงได้แบบพลิกความคาดหมาย ด้วยผลงาน ชนะ 5 เสมอ 1 ไม่เคยพบกับความปราชัยแม้แต่เกมเดียว จึงทำให้ทีมลูกหนังจากโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้ว มี 16 คะแนน

 ขณะที่ทีมที่จับตามองอย่าง "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมน้องใหม่ที่ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดของประเทศในฐานะแชมป์ดิวิชั่น 1 เริ่มเกิดอาการแผ่วเล็กน้อย แม้จะยังไม่พบกับความปราชัย แต่กลับลงเอยด้วยผลเสมอไปแล้วถึง 3 เกม จึงทำให้ทีมน้องใหม่รั้งอันดับ 4 มี 12 แต้ม ส่วน "ลูกพระเกี้ยว" จุฬา ยูไนเต็ด ยังคงรั้งตำแหน่งบ๊วยอันดับ 16 อย่างเหนียวแน่น หลังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น มีเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น

 สำหรับบรรยากาศของบรรดาแฟนบอลแต่ละสนามเต็มไปด้วยรูปแบบการเชียร์ที่ไม่ได้แตกต่างไปจากแฟนบอลในเกมลีกลูกหนังต่างประเทศที่เคยได้เห็นจากทางหน้าจอโทรทัศน์เลย เพราะมีทั้งการโบกธง, ชูผ้าพันคอ, ตีกลองร้องเพลงเรียกเสียงเชียร์จากเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่สวมเสื้อทีมโปรดมาเป็นกำลังใจให้ทีมรักของตัวเองเหมือนกัน 

 หากใครก็ตามที่เป็นคอบอลลีกลูกหนังต่างประเทศ และยังไม่เคยสัมผัสบรรยากาศการลุ้นฟุตบอล ไทยลีก แบบนี้ ขอแนะนำให้ลองก้าวเท้าออกจากบ้านไปติดตามชมเกมการแข่งขันลีกสูงสุดของประเทศถึงขอบสนามดูบ้าง ไม่ใช่คอยลุ้นแต่เกมระดับชาติในยามที่ ทีมชาติไทย ลงสนามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากที่เคยติดตามลุ้นเกมลูกหนังต่างประเทศจากทางหน้าจอโทรทัศน์กรอบสี่เหลี่ยมอยู่เป็นประจำในทุกๆ สัปดาห์
  แม้ว่าฟุตบอลต่างประเทศมันจะสนุกเร้าใจเพียงใด แต่เชื่อได้เลยว่า สุดท้ายแล้วคนไทยทุกคนต้องมีบอลไทยอยู่ในสายเลือดอย่างแน่นอน